ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อระบบไมค์ประชุมไร้สาย

ในการเลือกซื้อชุดไมค์ประชุมไร้สายสำหรับห้องประชุมแต่ละครั้ง ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เนื่องจากการเลือกชุดประชุมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน

จึงจำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ร่วมประชุมเข้าใจถึงข้อความที่ต้องการสื่อสารได้อย่างชัดเจน ซึ่ง “ไมโครโฟนไร้สาย” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยส่งเสริมการประชุมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะไมโครโฟนไร้สายแบบกล้องหมุนตามผู้ประชุมที่วันนี้เราจะพามาแนะนำกัน

ทำไมต้องใช้ไมโครโฟนไร้สายแบบกล้องหมุนตามผู้ประชุม

ไมโครโฟนไร้สาย ถือว่าเป็นทางเลือกที่นิยมใช้ในการประชุม ด้วยเหตุผลในความสะดวกสบาย สามารถนำไปจัดวางได้ทุกตำแหน่งของพื้นที่ประชุมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสาย เชื่อมต่อไมค์แต่ละตัวอีกทั้งไมโครโฟนไร้สายแบบกล้องหมุนตามผู้ประชุม ผู้ประชุมที่กดใช้ไมค์ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์การประชุมครั้งละหลายคนร่วมกับการใช้งานเพื่อประชุมทางไกล เพื่อให้ผู้ประชุมที่อยู่อีกสถานที่สามารถเห็นภาพการประชุมและเห็นหน้าผู้พูดได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องคอยขยับกล้อง ซึ่งสามารถต่อกล้องเพื่อใช้ร่วมกันได้พร้อมกันถึง 4 ตัว และสามารถฉายภาพขึ้นบนจอขนาดใหญ่ได้แก่ LED Wall, IPG หรือ Projector ได้

ปัจจัยในการเลือกชุดประชุมไมโครโฟนไร้สาย

1. เลือกระบบที่เหมาะกับการใช้งาน

หนึ่งในสิ่งสำคัญของการเลือกไมค์ประชุมไร้สาย คือเลือกให้ตอบโจทย์กับการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกระบบสื่อสาร โดยมีระบบสื่อสารสำหรับอุปกรณ์ไร้สาย ได้แก่

• แบบ RF (Radio Frequency)

หรือที่หลายคนอาจเรียกว่าไมค์ไร้สายทั่วไป UHF (Ultra-High Frequency), VHF (Very-High Frequency) ซึ่งเป็นระบบการสื่อสารที่ได้รับความนิยมสูงสุดโดยการใช้ความถี่คลื่นวิทยุในการส่งข้อมูลไร้สาย ซึ่งใช้งานง่ายและขยายกำลังส่งได้ในวงกว้าง โดยจะใช้คลื่นความถี่ในช่วง 300-3,000 MHz ทำให้สามารถส่งสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาการรบกวนของสัญญาณภายในอาคารได้เป็นอย่างดี จึงรองรับระบบใหญ่ ๆ และการทำงานหลายเครื่องพร้อมกัน ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาจนได้คลื่นความถี่ RF ที่สูงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการหาความถี่ โดยระบบจะสแกนหาความถี่ที่มีประสิทธิภาพสูงและทำการย้ายคลื่นที่ใช้โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดคลื่นเสียงรบกวน

• แบบ IR (Infrared Frequency)

หรือที่รู้จักกันในชื่อ อินฟราเรด นั่นเอง เป็นระบบการสื่อสารที่ปล่อยคลื่นสัญญาณอินฟราเรดให้ไมโครโฟนชุดประชุม จึงปลอดภัยจากสัญญาณคลื่นแทรกรบกวน แต่จะโดนจำกัดการใช้งานในวงแคบเฉพาะที่เครื่องส่งกระจายจะไปถึง ซึ่งเป็นระยะใกล้เคียงเท่านั้น โดยเน้นการใช้งานในห้องที่มีกำแพงปิดรอบด้าน หากต้องการขยายสัญญาณจะต้องทำการติดตั้งชุดการกระจายคลื่นอินฟราเรดให้มีรัศมีครอบคลุม

โดยอาจสรุปได้ว่าระบบ RF มักมีระยะการส่งสัญญาณที่กว้างและสามารถทำงานในระยะทางไกลกว่าระบบ IR แต่หากพูดถึงความเสถียรในการส่งสัญญาณระยะใกล้ ระบบ IR จะสามารถทำงานได้ดีกว่า

2. คุณภาพเสียง

เนื่องจากไมโครโฟนมีหน้าที่หลัก คือการขยายและถ่ายทอดเสียงพูดให้ผู้ฟังได้ยินอย่างชัดเจน ดังนั้น คุณภาพเสียงจึงมีความสำคัญมาก โดยต้องพิจารณาร่วมกับตัวรับ-ตัวส่งสัญญาณว่าสามารถตอบสนองต่อเสียงผู้พูดและสามารถรับเสียงได้อย่างทั่วถึงและถูกต้องหรือไม่ และทำการเลือกไมโครโฟนที่มีการถ่ายทอดสัญญาณเสียงที่ดี เป็นธรรมชาติ ลดความสับสนที่อาจเกิดขึ้นจากเสียงที่ไม่ชัดเจนเมื่อมีคลื่นรบกวนได้ รวมถึงการตรวจเช็กคุณภาพเสียงว่า เมื่อสัญญาณมีความเสถียร ระบบเสียงที่ได้จะมีประสิทธิภาพดีตรงกับความต้องการในการใช้งานหรือไม่

3. คำนวณการใช้แบตเตอรี่

เนื่องจากการประชุมในแต่ละครั้งอาจต้องใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การคำนึงถึงระบบจ่ายไฟ หรือการทำงานของแบตเตอรี่ว่า สามารถสำรองไฟได้ในระยะเวลาเท่าไรจึงมีความสำคัญต่อการใช้งานจริงอย่างมาก เช่น หากต้องประชุมต่อเนื่องนาน 6 ชั่วโมง แต่แบตเตอรี่ของไมค์ประชุมไร้สายสามารถสำรองไฟได้แค่ 5 ชั่วโมง ทำให้ต้องซื้อแบตเตอรี่สำรองเพิ่ม หรือต้องเตรียมไมค์สำรองไว้อีกอัน ซึ่งการต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือไมค์ในขณะมีการประชุมอาจทำให้การประชุมขาดตอน ไม่ราบรื่นเท่าไรนัก หรืออาจจะมองหาตัวเลือกเป็นเครื่องชาร์จถ่านเตรียมไว้ด้วย ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดี

4. ใช้ร่วมกับระบบอื่นได้หรือไม่

ถึงแม้ว่าไมโครโฟนไร้สายจะใช้งานด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนคลื่นให้เหมาะกับสถานที่จัดการประชุมได้ แต่ก็มีโอกาสที่อาจจะเกิดเหตุฉุกเฉินได้ โดยอาจจะมีเสียงหรือคลื่นรบกวนจากบริเวณรอบข้าง ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับการรับ-ส่งสัญญาณ ควรเลือกไมค์ประชุมไร้สายที่ได้รับรองคลื่นความถี่จาก กสทช. ซึ่งจะทำให้ช่วงความถี่ไม่ชนกัน

แนะนำ! ชุดไมค์ GW350 Wireless Tracking

ชุดควบคุมไร้สายและชุดไมค์ประชุม Conference Mic GYGAR รุ่น GW350 แบบ Wireless Tracking สามารถใช้ร่วมกับไมค์ประชุมได้สูงสุดถึง 250 ตัว หมดห่วงเรื่องการใช้งานในห้องประชุมขนาดใหญ่ด้วยการใช้คลื่นย่าน UHF 803.3-805.7MHz ที่มีรัศมีการทำงานถึง 60 เมตร พร้อมช่องเสียบ USB เพื่อบันทึกการประชุม อีกทั้งยังสามารถคอนโทรลกล้องได้ด้วยระบบกล้องที่หมุนตามผู้พูด โดยสามารถตั้งการพูดพร้อมกันได้ถึง 4 คน จึงสะดวกในการใช้งานและเหมาะอย่างยิ่งในการใช้ประชุมทางไกล เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมนอกสถานที่สามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าใครกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ด้วยสีหน้าและท่าทางอย่างไร จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสารได้เป็นอย่างดี

เลือกระบบชุดไมค์ประชุมไร้สายที่ตอบโจทย์ ต้องที่ GYGAR มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ และบริการติดตั้งจากทีมช่างที่ผ่านการรับรองความรู้ ความสามารถ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคารทั้งหมด และเป็นสินค้าที่มีการจดเครื่องหมายการค้าในไทยมาไม่น้อยกว่า 10 ปี และได้รับการรับรองช่วงคลื่นความถี่จาก กสทช.