Blog

4 วิธีเลือกไมค์ประชุมไร้สายเพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

วิธีเลือกไมค์ประชุมไร้สาย

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นหัวใจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในองค์กรทุกขนาด ด้วยเหตุนี้ ไม่เพียงแต่จะต้องเรียบเรียงเนื้อหา รวมถึงเตรียมตัวให้พร้อมก่อนประชุมเท่านั้น แต่การเตรียมระบบเครื่องเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกไมค์ประชุมอย่างไมค์ประชุมไร้สายที่มีประสิทธิภาพก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้พูดสามารถสื่อสารทุกความหมายได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถลดความผิดพลาดในการติดต่อประสานงานจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนได้เป็นอย่างดี โดยหากยังไม่แน่ใจว่าจะมีวิธีเลือกไมค์ประชุมอย่างไรให้ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพสูงสุด มาทำความรู้จัก 4 วิธีการเลือกไมค์ประชุมที่นำมาฝากในวันนี้กัน

1. รู้จักรูปแบบและเลือกใช้ไมโครโฟนให้เหมาะสม

รู้จักลักษณะการกระจายเสียงของไมโครโฟน

การเลือกไมค์ประชุมที่มีประสิทธิภาพ เริ่มต้นจากการเข้าใจหลักการกระจายเสียงของไมค์ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ไมโครโฟนนั้นจะมีหลักในการกระจายเสียง 2 แบบ คือ

  • ไมโครโฟนรอบทิศทาง ที่จะจับและกระจายเสียงออกรอบด้าน อีกทั้งยังสามารถเก็บเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถกระจายเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน เหมาะสำหรับใช้ในห้องประชุมตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงงานประชุมใหญ่ได้
  • ไมโครโฟนแบบกำหนดทิศทาง ที่จะจับเสียงจากด้านหน้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการประชุมเล็ก ๆ หรือในสถานการณ์ที่ทั้งห้องประชุมมีลำโพงกระจายเสียงเพียง 1-2 ตัวเท่านั้น

ประเภทของไมโครโฟนในห้องประชุม

นอกจากจะเข้าใจหลักในการกระจายเสียงของไมค์แล้ว การเลือกไมค์ให้เหมาะสมกับการประชุมยังควรพิจารณาถึงประเภทและลักษณะการใช้งานของตัวไมโครโฟนเช่นกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ไมค์ประชุมจะมีทั้งหมด 6 ประเภท ดังนี้

  • ไมโครโฟนแบบมือถือ หรือไมค์ประชุมไร้สาย เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับลำโพงหลายตัว งานประชุมใหญ่ รวมไปถึงคอนเสิร์ต เมื่อใช้ไมค์ประเภทนี้จะสามารถเดินไปรอบ ๆ เพื่อพูดคุยสอบถาม และมีส่วนร่วมกับผู้ฟังได้
  • ไมโครโฟนคอห่าน เป็นไมค์ประชุมที่อยู่ติด หรือติดตั้งอยู่ใกล้กับลำโพงเสมอ ทำให้สามารถรับและกระจายเสียงได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับใช้กับแท่นบรรยาย รวมไปถึงห้องประชุมขนาดกลางและเล็ก
  • ไมโครโฟนติดตัว เป็นไมค์ประชุมไร้สายอีกประเภทหนึ่งที่จะติดตั้งไมค์ไว้ที่บริเวณหู และผู้พูดจะพกลำโพงเล็ก ๆ ติดตัวไปเพื่อกระจายเสียงด้วย
  • ไมโครโฟนแบบติดเพดาน จะเป็นไมค์ที่ติดตั้งเอาไว้บนเพดานเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน สามารถตั้งโปรแกรมการกระจายเสียง และประสิทธิภาพด้านเสียงอื่น ๆ ได้ แต่ตัวไมค์ประเภทนี้อาจดูดเสียงรบกวนได้ง่ายกว่าไมค์ประเภทอื่น
  • ไมโครโฟนติดตาม เป็นไมค์ประชุมที่สามารถติดตามผู้พูดผ่านนวัตกรรมที่เรียกว่า Beam Tracking โดยตัวกระจายเสียงจะมีการติดตั้งสัญญาณดิจิทัล DSP (Digital Signal Processing) เอาไว้เพื่อทำให้ติดตามผู้พูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้เสียงที่เป็นธรรมชาติและชัดเจนมากที่สุด
  • ไมโครโฟนตั้งโต๊ะ เป็นไมค์ประชุมแบบดั้งเดิมที่กระจายและควบคุมเสียงได้ดี แต่จะไม่สามารถตั้งค่าหรือปรับจูนไมโครโฟนได้อย่างอิสระมากนัก

2. พิจารณาลักษณะห้องประชุม

หลังจากรู้จักการกระจายเสียง รวมไปถึงไมโครโฟนรูปแบบต่าง ๆ แล้ว การเลือกไมค์ประชุมที่เหมาะสมยังต้องพิจารณาจากลักษณะของห้องประชุมด้วยเช่นกัน เนื่องจากประสิทธิภาพของไมโครโฟนจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่นำไปใช้งาน ซึ่งหากยังไม่แน่ใจว่าจะพิจารณาลักษณะห้องประชุมเพื่อเลือกไมโครโฟนอย่างไร สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • ดูขนาดของห้องประชุมก่อน 

หากยิ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ก็จะยิ่งต้องการไมค์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรืออาจเลือกใช้ไมค์ประชุมไร้สายเพื่อความสะดวกในการพูดคุยและสอบถามกันภายในงานประชุม หรือจะเลือกใช้ไมโครโฟนแบบรอบทิศทาง ตัวกระจายเสียงเหนือศีรษะ หรือไมโครโฟนแบบกำหนดทิศทางก็ได้เช่นกัน

  • พิจารณาถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่สามารถสะท้อนแสงได้ในห้องประชุม
    เนื่องจากสิ่งของที่มีพื้นผิวสะท้อนแสงได้จะช่วยสะท้อนทำให้เกิดเสียงได้ด้วย ซึ่งอาจจะมีข้อดีในการช่วยกระจายเสียง แต่ก็อาจทำให้ผู้ฟังได้รับสารไม่ชัดเจนได้เช่นกัน
  • เช็กถึงวัสดุซับเสียงภายในห้อง 

เช่น พรม และผ้าม่าน ซึ่งหากห้องประชุมมีวัสดุเหล่านี้มากเท่าไหร่ก็อาจทำให้ไมค์ประชุมกระจายเสียงไม่มีประสิทธิภาพ

3. เช็กจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม

ไม่เพียงแต่จะต้องตรวจสอบประเภทและลักษณะของห้องประชุมเท่านั้น แต่การเลือกไมค์ประชุมที่มีประสิทธิภาพยังต้องเช็กถึงจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมด้วยเช่นกัน โดยหากยิ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมมากเท่าไหร่ ผู้จัดงาน รวมถึงผู้พูดก็ควรเลือกใช้ไมโครโฟนที่มีประสิทธิภาพในการกระจายเสียงที่ดีขึ้นเท่านั้น หรืออาจเลือกใช้ไมค์ประชุมไร้สายเพื่อความสะดวกในการใช้งานมากที่สุด

อย่างไรก็ดี หากห้องประชุมมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ขอแนะนำให้เลือกใช้ไมค์ที่มีประสิทธิภาพในการกระจายเสียงสูง ควบคู่ไปกับการใช้ลำโพงหลาย ๆ ตัวร่วมด้วย เนื่องจากตัวผู้เข้าร่วมประชุมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ดูดซับเสียงจากไมโครโฟนเข้าไปด้วยเช่นกัน

4. ดูจุดประสงค์ของการประชุม

แม้จะมีจุดประสงค์ในการประชุมเหมือนกัน แต่ลักษณะการใช้งาน พรีเซนต์ รวมไปถึงการนำเสนอของผู้พูดแต่ละคนจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อวิธีเลือกไมค์ประชุมให้เหมาะสมด้วย

เช่น หากงานประชุมมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนองาน รายงานผลประกอบการ หรือเป็นการประชุมที่อาจไม่ต้องการส่วนร่วมจากทางผู้ฟังมาก ผู้พูดอาจเลือกใช้งานไมค์ประชุมที่กระจายเสียงที่มีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว เช่น ไมค์คอห่าน ไมค์ตั้งโต๊ะ หรือไมค์แบบติดเพดาน

แต่หากการประชุมต้องใช้ส่วนร่วมจากผู้ฟัง หรือผู้พูดจำเป็นต้องเดินไปรอบ ๆ ห้องประชุมด้วย นอกจากคุณภาพเรื่องเสียงแล้ว ผู้พูดยังต้องเลือกไมค์ประชุมที่พกพาสะดวกอย่างไมค์ประชุมไร้สาย ไมค์ติดตัวสำหรับการประชุมเล็ก ๆ หรือจะใช้ไมค์หลายตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการประชุมก็ได้เช่นกัน
จบลงไปแล้วกับ 4 วิธีเลือกไมค์ประชุมให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน พร้อมช่วยให้ผู้พูดสามารถสื่อสารทุกความหมายได้ครบทุกใจความมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจจะเลือกไมค์ประชุมแบบไหน ควรใช้ไมค์ประชุมไร้สายรุ่นใด ปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับไมค์ประชุม พร้อมเลือกซื้อไมค์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้ที่ GYGAR แบรนด์อันดับ 1 จากคนไทย ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยไมค์คุณภาพสูง ไร้เสียงรบกวน ไม่ต้องคอยห่วงเรื่องสัญญาณขาดหาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0-2582-2285

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *